tag:blogger.com,1999:blog-27377473915941639952024-03-08T21:21:18.095+07:00KXNOTEบันทึกความรู้ที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาประจำวันAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.comBlogger12125tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-45210674927211080632012-07-03T14:54:00.001+07:002012-07-03T15:44:11.417+07:00วิธีกำหนด URL ของ Post ใน Google Blogger ตามใจชอบในการเขียน Post ใน Blog ของคนไทยเรา ก็เป็นธรรมดาที่จะเขียน "หัวเรื่อง" (Title) เป็นภาษาไทย และเขียน เนื้อความเป็นภาษาไทย<br />
<br />
ปัญหาอยู่ที่ว่า เราใช้ Google Blogger ... ซึ่ง เมื่อสร้าง Post ใน Blog แล้ว ก็จะสร้าง Link ของ Post นั้น อัตโนมัติ ... ซึ่ง จะแปลกๆ อ่านยาก เนื่องจาก Blogger จะพยายามหาภาษาอังกฤษใน Title แล้ว เมื่อหาไม่เจอ ก็จะพยายามหาอะไรสักอย่างมาใส่ให้แทน ซึ่ง ... ไม่สื่อความหมายเอาเสียเลย<br />
<br />
เช่น เราจะตั้ง Title ว่า "วิธีการตั้งลิงค์ที่สื่อความหมายให้กับบันทึกในบล็อกเกอร์" ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไม่มีภาษาอังกฤษเลย, เจ้า Blogger ก็จะไม่รู้่หาอะไรมาแทนดี ก็เลยใช้เป็นคำว่า blog-post.html<br />
<br />
ซ้ำร้ายไปกว่านั้น Post ต่อๆมาในวันนั้น แล้ว Title ไม่มีภาษาไทยเลย มันก็จะยิ่งงงไปใหญ่ พยายามหาอะไรแปลกๆมาแทนให้ เช่น blog-post_6402.html บ้าง อะไรบ้าง ซึ่งไม่สื่อความหมาย เปลี่ยนก็ไม่ได้<br />
<br />
หลังจากหาทางแก้อยู่หลายวันหลายคืน ... ก็พบบทความหนึ่ง ที่ <a href="http://techiebeginners.wordpress.com/2011/07/26/how-to-customize-your-blogger-post-url/">http://techiebeginners.wordpress.com/2011/07/26/how-to-customize-your-blogger-post-url/</a><br />
<br />
มันช่างง่ายดายเสียนี่กระไร วิธีการคือ<br />
<br />
<ol>
<li>เริ่มจาก เขียน Title เป็นภาษาอังกฤษ ให้สื่อความหมายกับเนื้อความใน Post ของเรา<br />อย่างบทความนี้ ผมตั้งว่า "customize your blogger post url"<br />*** ระวังอย่าให้เกิน 40 ตัวอักษร *** เพราะระบบจะจำกัดไว้แค่นั้น</li>
<li>เขียนเนื้อความ ตามปรกติ แล้วคลิก Publish</li>
<li>จากนั้น ค่อยมาเปลี่ยน หัวเรื่อง เป็นภาษาไทย ตามต้องการ เช่นตัวอย่างนี้ ตั้งชื่อภาษาไทยว่า "วิธีกำหนด URL ของ Post ใน Google Blogger ตามใจชอบ"</li>
<li>แล้วกดปุ่ม Update เป็นอันเรียบร้อย เพราะ Blogger จะไม่เปลี่ยน URL หลังจากเรา Publish ไปแล้วในครั้งแรก</li>
</ol>
<div>
มันเป็นแค่ .... ลำดับก่อนหลัง ซึ่งให้ผลแตกต่างอย่างมากมาย</div>
<div>
ลองดูนะครับ ;-)</div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-49264159360629849532012-07-03T12:14:00.001+07:002012-07-03T12:14:28.957+07:00Application จำเป็น บน Andriod ของฉันหลังจาก Factory Reset เพื่อทำการ 5ส เจ้า Galaxy Mini แล้ว ก็ทำการติดตั้งโปรแกรมใหม่<br />
ก็พบว่า โปรแกรมที่จำเป็นๆ นอกเหนือจากที่ของดั้งเดิมให้มา ประกอบไปด้วย<br />
<br />
<ol>
<li>Facebook for Andriod<br />อันนี้ เป็นที่เข้าใจกัน ขาด Facebook เหมือนได้อย่างไร</li>
<li>Google+<br />เอาไว้ใช้อ่านสาระต่างๆ กับการ upload รูปภาพที่ถ่ายมา ้ด้วย Instant Upload แล้วค่อยมาคัดอีกครั้งว่ารูปใดควร share ในกลุ่มใดบ้าง</li>
<li>Google Drive<br />งานเอกสารต่างๆ อยู่บนนี้หมดแล้ว</li>
<li>K-9 Mail<br />ไว้อ่าน IMAP Mail ขององค์กร</li>
<li>My Data Manager<br />ต้องติดตั้งไว้ เพื่อบริหารว่า ถ้าต่อ 3G เราใช้งาน Internet ไปด้วย Application ใด มากน้อยขนาดไหน และเอาไว้บริหารว่า เหลือเวลาอีกกี่วัน และใช้งานข้อมูลได้อีกเท่าไหร่ มีประโยชน์ยิ่งยวด</li>
<li>Speed Test<br />เอาไว้ตรวจสอบว่า Internet ช้าเพราะอะไร และเราต่อได้ความเร็วเท่าไหร่</li>
<li>AndFTP<br />ใช้โอนข้อมูลกับ Computer ใน WLAN ที่เปิด FTP เอาไว้ (พอดีใช้ Notebook เป็น Ubuntu ก็เลยง่าย ไม่ต้องลุ้นว่าจะเสียบสาย USB แล้วจะติด เครื่องคอมพิวเตอร์จะเห็นหรือไม่อีกด้วย)</li>
<li>MX Player<br />ใช้เล่นไฟล์ Multimedia โดยเฉพาะ MP4</li>
</ol>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-84936833344845943482012-05-29T05:06:00.000+07:002012-05-29T05:06:12.489+07:00รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการไอในเด็กเล็กศ.พญ.อรุณวรรณ พฤทธิพันธุ์ ตอบคำถาม "ทำไมลูกไม่หายไอสักที" ว่า มีหลายสาเหตุ เช่น หลอดลมไวหรือโรคหืด, มีเสมหะ น้ำมูกไหลลงคอ, เป็นภูมิแพ้อากาศ, ไซนัสอักเสบ เป็นต้น หรือบางครั้งรักษาด้วยยาไม่หายสักที กลับมาเป็นซ้ำเรื่อยๆ ก็ต้องไปดูเรื่องสภาวแวดล้อม เช่นบางคนติดแป้งฝุ่น ก็ไอไม่หยุด รวมไปถึง พอติดบุหรี่ ก็ทำให้ลูกไอได้เช่นกัน<br /><a href="http://www.oknation.net/blog/DrPon/2009/12/16/entry-4">http://www.oknation.net/blog/DrPon/2009/12/16/entry-4</a><br /><br />รวมเรื่องสุขภาพของเด็ก โดย หมอเด็ก<br /><a href="http://www.oknation.net/blog/DrPon">http://www.oknation.net/blog/DrPon</a>
<br />
<br />
แล้วถ้าลูกมีน้ำมูกมากๆ จะทำอย่างไร เด็กเล็กๆก็สั่งน้ำมูกไม่เป็นด้วย มีวิธีการทำตั้งแต่ ใช้ไม้พันสำลีชุบ NSS หรือน้ำเกลือ เช็ให้ขี้มูกอ่อนตัวจนหลุดออกมาได้, ใช้ลูกยางแดง โดยการดูดต้องให้เด็กนอนหนุนหมอนสูงและแหงนหน้า แล้วค่อยดูด เป็นต้น<br /><a href="http://www.oknation.net/blog/DrPon/2009/12/16/entry-1">http://www.oknation.net/blog/DrPon/2009/12/16/entry-1</a>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-71623943624095099922012-04-04T13:56:00.003+07:002012-07-03T14:34:12.607+07:00วิธีเลือกใช้ยางรถยนต์<a href="" name="<$BlogItemNumber$>"> </a>
ยางรถยนต์ ก็เห็นเป็นวงกลมๆเหมือนกัน แต่จริงๆแล้วมันไม่เหมือนกัน<br />
ยางแต่ละเส้นจะมีข้อมูลที่ผู้ผลิตแจ้งไว้ให้ทราบอยู่แล้ว แต่ต้องดูให้เป็น<br />
<br />
<b><u>วิธีดู เลขบนแก้มยาง</u></b><br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://3.bp.blogspot.com/-W9XTlFgvMoQ/T3vqrfnRBTI/AAAAAAAAEAw/YNo3uVzSMTI/s1600/2012-04-04+13.25.50.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://3.bp.blogspot.com/-W9XTlFgvMoQ/T3vqrfnRBTI/AAAAAAAAEAw/YNo3uVzSMTI/s400/2012-04-04+13.25.50.jpg" width="400" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
จะเห็นเลขประมาณ 205/55R16 90H</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://2.bp.blogspot.com/-5ogaaYNaNd0/T3vrWzAK3KI/AAAAAAAAEBA/FDeAVLxjLno/s1600/2012-04-04+13.24.37.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="300" src="http://2.bp.blogspot.com/-5ogaaYNaNd0/T3vrWzAK3KI/AAAAAAAAEBA/FDeAVLxjLno/s400/2012-04-04+13.24.37.jpg" width="400" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
205/55R16 90H ตามภาพ หมายความว่า</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
</div>
<ul>
<li>205 : ยางมีหน้ากว้าง 205 mm.</li>
<li>55 : ความกว้างของแก้มยาง เทียบกับหน้ากว้างของยาง หน่วยเป็น %</li>
<li>R : ยางเรเดียล</li>
<li>16 : เส้นผ่านศูนย์กลางกระทะล้อ</li>
<li>90 : ดรรชนีน้ำหนักบรรทุก (Load Index)</li>
<li>H : ความสามารถในการทำความเร็วสูงสุด (คันนี้ ไม่เกิน 200 km/h)<br />ซึ่งจะมีตารางประมาณนี้<br />Q : 160 km/h<br /> S: 180 km/h<br />T: 190 km/h<br />H: 200 km/h<br />V: 240 km/h<br />Z: มากกว่า 240 km/h</li>
</ul>
<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<b><u>แล้วยางเส้นนี้ผลิดเมื่อไหร่</u></b> ให้มองหาเลขประมาณนี้</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
<a href="http://3.bp.blogspot.com/-LNniEX5Bst4/T3vqxbLoLMI/AAAAAAAAEA4/mmf_ffYFFSo/s1600/2012-04-04+13.25.39.jpg" imageanchor="1" style="margin-left: 1em; margin-right: 1em;"><img border="0" height="320" src="http://3.bp.blogspot.com/-LNniEX5Bst4/T3vqxbLoLMI/AAAAAAAAEA4/mmf_ffYFFSo/s320/2012-04-04+13.25.39.jpg" width="240" /></a></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
จะเห็นเลขประมาณว่า (จากภาพ) 3408 แสดงว่า เป็นการผลิตใน สัปดาห์ที่ 34 ของปี 2008</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
ดังนั้น จะเปลี่ยนยางครั้งต่อไป พวกที่มีโปรโมชั่นลดราคาต่างๆ ให้สังเกตเรื่อง ปีของยางด้วย ถ้ายางเก่าๆ ก็จะเสื่อมคุณภาพไปตามกาลเวลา ดีที่สุดคือผลิตไม่เกิน 6 เดือน</div>
<div class="separator" style="clear: both; text-align: left;">
<br /></div>
<br />
<br />
<br />
<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-57684264255777071242012-04-04T11:45:00.005+07:002012-04-04T11:45:51.540+07:00วิธีตั้งค่า PHP ให้ Upload ไฟล์ขนาดใหญ่ได้ตั้งค่า PHP ต่อไปนี้ เพื่อสามารถ Upload ไฟล์ขนาดใหญ่ได้<br />
โดยแก้ไขที่ /etc/nginx/sites-available/default<br />
(ในที่นี้เป็น nginx บน Ubuntu 10.04 Server)<br />
<br />
<ul style="background-color: white; font-family: arial, Verdana, Helvetica, sans-serif; font-size: 14px;">
<li style="margin-top: 5px;">file_uploads</li>
<li style="margin-top: 5px;">upload_max_filesize</li>
<li style="margin-top: 5px;">max_input_time</li>
<li style="margin-top: 5px;">memory_limit</li>
<li style="margin-top: 5px;">max_execution_time</li>
<li style="margin-top: 5px;">post_max_size</li>
</ul>
<br />
<br />
ในกรณีที่ใช้ nginx เป็น Web Server ให้แก้ไข /etc/nginx/nginx.conf<br />
(ในที่นี้เป็น nginx บน Ubuntu 10.04 Server)<br />
<br />
โดยเพิ่มในส่วนของ<br />
http {<br />
<br />
}<br />
และเพิ่มบรรทัดต่อไปนี้ (เช่น ต้องการให้ upload ได้ถึง 100 MB)<br />
client_max_body_size 100m;<br />
<br />
ตัวอย่างเช่น<br />
<br />
http {<br />
...<br />
client_max_body_size 100m;<br />
...<br />
}<br />
<br />
อ่านเพิ่มเติม<br />
http://www.radinks.com/upload/config.php<br />
<a href="http://wiki.nginx.org/NginxHttpCoreModule#client_max_body_size">http://wiki.nginx.org/NginxHttpCoreModule#client_max_body_size</a><br />
<br />Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-82189128305950187272012-04-04T09:42:00.002+07:002012-04-04T09:42:56.624+07:00วิธีลบ Blog ใน Bloggerบางครั้งเราก็สร้าง blog ขึ้นมา แล้วไม่ถูกใจ ก็อยากจะลบออก<br />
ใน Blogger นั้น (โดยเฉพาะ Interface ใหม่) จะไม่มีปุ่มให้ Delete ในหน้า Dashboard<br />
หากต้องการลบ ให้ทำดังนี้<br />
<br />
<ol>
<li>ไปที่หน้า Blogger Dashboard</li>
<li>More options > Setting</li>
<li>คลิกเมนูซ้ายมือ ล่างสุด ที่เขียนว่า Other</li>
<li>บรรทัดที่เป็นเรื่อง Blog Tools, คลิกที่ Delete Blog</li>
<li>ถ้าต้องการลบจริงๆ คลิกที่ Delete This blog<br />แต่ถ้าต้องการเก็บเอาไว้ก่อน ให้ export ออกมา โดยคลิก Download Blog</li>
</ol>
<div>
Blog ที่ถูกลบไปแล้ว จะยังปรากฏอยู่ใน Blogger Dashboard ภายใต้หัวข้อ Deleted Blogs</div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com6tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-3888212084109739502012-04-02T16:09:00.003+07:002012-04-02T16:09:24.784+07:00จากการฟังบรรยายเรื่อง HP 3PAR Utility Storage Family<br />
<div>
บันทึกกันง่วง ...</div>
<ul>
<li>3PAR ออกแบบมาเพื่อกลุ่มที่ใช้งานแบบ Virtualization ซึ่งเหมาะกับงานที่ใช้งานไฟล์มากๆ เช่น Web Hosting, Unix</li>
</ul>
<ul>
<li>เดิม P2000 เป็นการ Scale-up เหมาะกับกลุ่มที่ใช้งาน IO ไม่มากนัก หรือ ถึงวันหนึ่งก็เปลี่ยนได้</li>
</ul>
<ul>
<li>ยุคใหม่ Lefthand จะเปลี่ยนชื่อเป็น P4000 เป็นการ Scale-Out, ใช้วิธี Stack Storage ขึ้นไปเป็น Cluster เพื่อกระจาย IO ก็ได้, นอกจากนั้นยังแยก Performance Tier และ Capacity Tier เพื่อแยก disk ที่มีความเร็วสูงราคาแพงเพื่อให้ได้ performance แต่ถ้าต้องการเนื้อที่เยอะๆราคาถูกก็ให้เป็น Capacity Tier แทน</li>
</ul>
<ul>
<li>Storage HA For Virtualization : เป็นการทำ network RAID เพื่อกระจายความเสี่ยงได้ด้วย (Synchronous/Asynchronous Snapshot Replication for DR -- ช้าเร็วแตกต่างกัน และกับการ synchronization)</li>
<li>Peer Montion: Online hardware upgrades, ใช้งานระหว่าง P4000 ด้วยกัน มองเป็น Volumn ไม่ใช่ระดับไฟล์</li>
</ul>
<br />
<br />
Why HP 3PAR?<br />
<br />
<ul>
<li>เน้นกลุ่มที่ทำ VM เยอะๆ, ยิ่งกว่าการใช้ VMWare Thin Provisioning แต่มองไปในเนื้อของ VMWare เลย ทำให้ประหยัดเนื้อ Disk ได้จริงๆ, มีการทำ Zero Page ด้วย ทำให้เนื้อที่นั้นๆ clean จริงๆ จะได้ free space เต็มที่</li>
<li>มีการจัดแบ่งให้ Admin แต่ละคน มองเห็น Disk แค่ส่วนที่ตัวเองได้รับเท่านั้น</li>
<li>Dynamic Multi-tenancy</li>
<li>Efficient use of resources</li>
<li>Management built for ITaaS</li>
<li>สรุป: มองให้เป็น Cloud Storage จริงๆ</li>
</ul>
<br />
<br />
Blah Blah Blah ...<br />
ราคา รุ่น F400 16 Disk x 300 GB = 4.8 TB, Fiber Interface ราคาแค่ ... 2 ล้านเอง ... ถูกง่ะ ... (.,.")<br />
<br />
อ่านต่อที่นี่<br />
<a href="http://h18006.www1.hp.com/storage/disk_storage/3par/index.html">HP 3PAR Utility Storage Family</a>: <br />
<br />
<a href="https://chrome.google.com/webstore/detail/pengoopmcjnbflcjbmoeodbmoflcgjlk" style="font-size: 13px;">'via Blog this'</a>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-16783358623174812752012-04-02T13:50:00.001+07:002012-04-04T11:47:35.661+07:00Google Chrome Apps: Blogger & Blog This Vs EverNoteก่อนหน้านี้ ใช้งาน Evernote ก็ชอบมากอยู่<br />
แต่วันนี้ มาใช้ Blogger และ Blog This ... ซึ่งไปผูกกับ Google Blogger ของเรา ซึ่งสามารถทำให้สะดวกต่อการสร้างผลงานบทความได้ดีกว่า ..<br />
<br />
แต่เมื่อลองเทียบจุดเด่นด้อยดูแล้ว พบว่า มันดีกันคนละอย่าง ..<br />
Evernote: ใช้งานบน Android ได้ง่ายกว่า และบน PC ก็ง่าย<br />
Blogger: พิมพ์งานบน Android ยากกว่า แต่ใช้บน PC ง่าย<br />
<br />
ข้อเด่นของ Evernote คือ ไม่ใช่แค่ Bookmark แต่ทำ Clipping กล่าวคือ แม้ว่า หน้า webpage ดังกล่าวจะถูกลบไปแล้ว เราก็ยังจะเห็นเนื้อหาที่ทำการ clipping เอาไว้ เหมือนเราอ่านหนังสือพิมพ์ แล้วตัดบทความที่ชื่นชอบเก็บเอาไว้ ซึ่งการ Bookmark ทำไม่ได้<br />
<br />
จริงๆแล้ว Evernote ก็ทำ Blog ได้ แต่ผูกกับพวก Adsense ไม่ได้ดีเท่า Blogger ...<br />
<br />
เอาเป็นว่า ถ้าเป็นการ Clipping ส่วนตัว คงใช้ Evernote<br />
แต่ถ้าจะทำเรื่องการเขียนบทความ ใช้่ Blogger และ Blog This บน Google Chrome จะสะดวกกว่าAnonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-82569468599674091742012-04-02T13:41:00.001+07:002012-04-03T09:14:52.774+07:00Facebook vs Twitterวันนี้มี Twitter เตือนให้กลับไปใช้ twitter บ้าง ...<br />
ที่ผ่านมาเล่นแต่ Facebook ... วันนี้กลับไปใช้ Twitter ก็เลยเกิดสงสัยว่า<br />
เอ๊ะ ... ทำไมต้องใช้ Twitter ด้วยเนี่ย จำกัดข้อความ และไม่ค่อยม่ภาพ มีอะไรน่าสนใจ<br />
แต่ทำไมนะ ใครๆก็ยังใช้ Twitter ?<br />
<br />
ลองอ่านบทความนี้ดู ...<br />
(เออ ... เล่น Twitter สลับกับ Facebook ก็ได้ง่ะ)<br />
<a href="http://www.twitip.com/twitter-versus-facebook/">Facebook vs Twitter</a>:<br />
<a href="https://chrome.google.com/webstore/detail/pengoopmcjnbflcjbmoeodbmoflcgjlk" style="font-size: 13px;">'via Blog this'</a>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-1641256462270188812012-03-29T10:24:00.003+07:002012-03-29T10:24:23.514+07:00วิธีทำให้ใช้ Google Chrome ทุกที่ ก็มี Bookmark ตามมาด้วยเคยเจอปัญหาว่า เรา bookmark สิ่งต่างๆเอาไว้ใน Google Chrome บนเครื่องส่วนตัวของเรา แต่เล้ว ก็ต้องไปใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น .... ทำไงดีนะ Link ต่างๆก็จำไม่ได้ ทำอย่างไรจะได้ Bookmark มาด้วย<br />
<br />
Google Chrome ก็เลยมีคุณสมบัติที่เรียกว่า "Sign in to Chrome" เพื่อให้เราสามารถ sync การใช้งานต่างๆของเราใน Google Chrome บนเครื่องส่วนตัว ไปเก็บไว้ใน Google Account ของเรา, เมื่อต้องการใช้งานบนเครื่องอื่นๆ ก็สามารถ Sync ลงมาได้เลย<br />
<br />
วิธีการใช้งานก็ทำตามนี้ (หากใช้ครั้งแรก ให้เริ่มต้นจาก เครื่องส่วนตัวต้นฉบับของเราก่อน)<br />
<ol>
<li>ใน Google Chrome, คลิกที่ปุ่ม Customize แล้วเลือก "Sign in to Chrome"</li>
<li>Sign in ด้วย Google Account</li>
<li>คลิกที่ Ok, Sync everything</li>
</ol>
<div>
เมื่อไปใช้งานที่เครื่องอื่นๆ ก็ให้ใช้วิธีการเดียวกันนี้ ก็จะพบว่า เราจะได้ Bookmark ของเรามาด้วย นอกจากนั้น เรายังจะได้ Apps, Extension, Setting ต่างๆ, Omnibox หรือ Autocomplete ในการค้นหา website, รหัสผ่านที่ remember ไว้, Autofill ในการกรอกแบบฟอร์ม และ Theme ด้วย</div>
<div>
<br /></div>
<div>
แต่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่า ถ้า sync มาแล้วในเครื่องคนอื่น แล้วเขาจะเอาข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวของเราเก็บไว้หรือไม่ ดังนั้น เมื่อใช้งานเสร็จ ให้ลบ Profile ทิ้ง ด้วยวิธีการดังนี้</div>
<div>
<ol>
<li>ใน Google Chrome, คลิกที่ปุ่ม Customize แล้วเลือก Preferences</li>
<li>คลิกที่ Personal Stuff</li>
<li>ในส่วนของ User, คลิกที่ Delete this user (หากไม่มี Profile ของคนอื่น) หรือ คลิกที่ User ที่มีคำว่า Current ต่อท้าย แล้วคลิกปุ่ม Delete แล้วคลิกปุ่ม Delete อีกครั้ง</li>
</ol>
</div>
<div>
ลองใช้งานกันดู สะดวกมาก</div>
<div>
<br /></div>
<div>
อ่านเพิ่มเติม</div>
<div>
<a href="https://www.google.com/chrome/intl/en/more/sign-in.html">https://www.google.com/chrome/intl/en/more/sign-in.html</a></div>
<div>
<a href="http://support.google.com/chrome/bin/answer.py?hl=en&answer=2364824">http://support.google.com/chrome/bin/answer.py?hl=en&answer=2364824</a></div>
<br />
<div>
<ol>
</ol>
</div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-88673342189606792372012-03-28T08:48:00.002+07:002012-03-28T08:56:36.067+07:00ลองใช้ blogger.com บน android phoneทดสอบเขียน blog บน blogger.com บน Samsung Galaxy Mini
หน้าจอเล็กไปหน่อย เขียนลำบาก แถมการพิมพิ์ ต้อง tap ที่ html ก่อน จึงจะพิมพ์ได้ ปุ่ม "เขียน" ทำงานไม่ได้ และดูแล้ว ไม่แสดงผลเต็มจอด้วย ... สรุป andriod ก็ยังมีบางอย่างที่ทำไม่ได้ง่ะ<br />
<div class="separator" style="clear: both; text-align: center;">
</div>Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-2737747391594163995.post-16541367227119745202012-03-27T16:29:00.003+07:002012-03-27T16:29:12.074+07:00บันทึกแรกที่ผ่านมาก็เขียน Blog มาหลายๆที่แล้ว วันนี้จะเริ่มเขียนบันทึกจริงๆจังๆเสียที<br />
;-)Anonymoushttp://www.blogger.com/profile/02406244821431911775noreply@blogger.com0